วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สาธารณรัฐโปแลนด์ ช่วยเปิดทางตลาด ‘ผัก-ผลไม้-เนื้อไก่’

สาธารณรัฐโปแลนด์ ช่วยเปิดทางตลาด ‘ผัก-ผลไม้-เนื้อไก่’
นายเซนอน คุคชัค เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐโปแลนด์ ประจำประเทศไทย เกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าเกษตรจากโปแลนด์ โดยโปแลนด์มีความประสงค์จะขอรับการสนับสนุนและความช่วยเหลือจากหน่วยงานของไทย ในการพิจารณานำเข้าสินค้าทั้งผักและผลไม้ โดยเฉพาะแอปเปิ้ลเนื่องจากแอปเปิ้ลของโปแลนด์ มีคุณภาพดีและรสชาติอร่อย ซึ่งกระทรวงเกษตรฯยินดีที่จะพิจารณาการนำเข้าสินค้าเกษตรจากโปแลนด์ แต่ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบกักกันพืชของไทย รวมทั้งต้องผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืชจากกรมวิชาการเกษตรด้วย โดยในช่วงต้นปี 2558 โปแลนด์จะส่งเจ้าหน้าที่ทางการเกษตร เข้าหารือรายละเอียดอีกครั้ง

นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงการส่งออกผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์มายังไทย โดยโปแลนด์มีสินค้าเกษตรที่โดดเด่น คือ สินค้าปศุสัตว์ และสินค้าแปรรูป เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ ไส้กรอกชนิดต่างๆ และผลิตภัณฑ์จากนม โดยในส่วนการนำเข้าเนื้อไก่นั้น กรมปศุสัตว์ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจรับรองแหล่งผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ของโปแลนด์แล้ว ซึ่งหากประสบผลสำเร็จก็จะสามารถส่งออกเนื้อไก่มายังไทยได้ภายใน 2 ปี

วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2557

การเตรีมพื้นที่ เพื่อปลูกผักและไม้ผลอินทรีย์

การเตรีมพื้นที่ เพื่อปลูกผักและไม้ผลอินทรีย์
การปลูกผักและไม้ผลอินทรีย์ คือการปลูกผักและไม้ผลที่มีระบบการผลิต การใช้เครื่องพ่นยาสะพายหลัง ควรไตร่ตรองถึงสภาพแวดล้อม รักษาสมดุลธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพหลีกเลี่ยงการใช้สารสังเคราะห์ ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี หรือสารกำจัดศัตรูพืชต่างๆโดยหันกลับมาใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด ไถกลบเศษพืช และปุ๋ยชีวภาพในการซ่อมแซมบำรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ เพื่อให้ผักและไม้ผลมีความแข็งแรง เจริญเติบโตได้ดี และให้ผลผลิตที่ปลอดภัยจากสารพิษ และไม่ทำลายสภาพแวดล้อม

ข้อแนะนำการผลิตปุ๋ยคอก โดยใช้สารเร่งจุลินทรีย์
พด.1 มีส่วนผสมในการผลิต คือ 1) มูลไก่ 300 กิโลกรัม 2) รำข้าวละเอียด 30 กิโลกรัม
3) สารเร่งจุลินทรีย์ พด.1 1 ซอง (100 กรัม) และ
4) ฟางข้าว เพื่อใช้สำหรับคลุมกองปุ๋ยหมัก

ขั้นตอนการทำปุ๋ยคอก ผสมมูลไก่ รำละเอียด และสารเร่งจุลินทรีย์ พด.1 ให้เข้ากัน รดน้ำปรับความชื้น ประมาณ 60% ทำการตั้งกองปุ๋ยคอกให้สูง ประมาณ 30 เซนติเมตร แล้วนำฟางข้าวมาคลุมกองปุ๋ยคอกไว้ เพื่อรักษาความชื้นและธาตุอาหารในกองปุ๋ยหมัก ในระหว่างการหมักไม่ต้องกลับกองปุ๋ยคอก ปล่อยให้เกิดการย่อยสลายเป็นเวลา 7 วัน จึงนำไปใช้ในการปลูกพืชได้

กระบวนใช้ปุ๋ยคอก ให้เตรียมแปลงเพาะกล้า โดยใช้ปุ๋ยหมัก อัตรา 1 ตัน/ไร่ และช่วงการเจริญเติบโตของพืช ให้ใช้ปุ๋ยหมัก อัตรา 1 ตัน/ไร่ โดยใช้เครื่องปั่นไฟ

กระบวนการผลิตน้ำหมักชีวภาพ จากไข่ไก่ โดยใช้สารเร่ง พด.2 มีส่วนผสมในการผลิต คือ 1) ไข่ไก่ (รวมเปลือก) ซึ่งปั่นให้ละเอียด 50 ฟอง 2) ตับ 3 กิโลกรัม 3) กากน้ำตาล 3 กิโลกรัม 4) สารเร่งจุลินทรีย์ พด.2 1 ซอง (25 กรัม) และ 5) น้ำ 20 ลิตร

ข้อแนะนำวิธีทำน้ำหมักชีวภาพ นำไข่ไก่ที่ปั่นละเอียด ตับ และกากน้ำตาลลงในถังหมักผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน ทำการละลายสารเร่งจุลินทรีย์ พด.2 จำนวน 1 ซอง ผสมในน้ำ คนให้เข้ากันนาน 5 นาที จากนั้นเทลงในส่วนผสมของไข่ไก่และตับ แล้วคนให้เข้ากันอีกครั้ง พร้อมกับเติมน้ำให้ครบ 20 ลิตร จากนั้นปิดฝาไม่ต้องสนิท และตั้งทิ้งไว้ในที่ร่ม 20 วัน (จนไม่ปรากฏฟอง)

วิธีใช้น้ำหมักชีวภาพ
1.ก่อนระยะการเก็บเกี่ยวพืชผักและไม้ผล ควรฉีดพ่นน้ำหมักชีวภาพ ทุก 7 วัน หรือรดลงในดินบริเวณโคนต้นไม้ผล เช่น มะละกอ และชมพู่

2.ในการปลูกถั่วฝักยาว จะใช้น้ำหมักชีวภาพ ที่ประกอบด้วยไข่ไก่และปลาหมัก ที่เจือจาง 1:1,000 ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน ซึ่งน้ำหมักชีวภาพจากไข่ จะช่วยเร่งการออกดอกผลได้ดี เนื่องจากมีฮอร์โมนจิบเบอเรลลินสูง

การแก้ไขวัชพืช ต้องปล่อยให้วัชพืชสูงจนออกดอก แต่ยังไม่มีเมล็ด ถ้าปลูกปอเทืองด้วย ให้ไถกลบเมื่อปอเทืองออกดอก ทำการตัดต้นวัชพืชตรงบริเวณโคนต้นพร้อมกับต้นปอเทือง ด้วยเครื่องตัดหญ้า จากนั้นใช้รถไถทำการไถกลบลงดิน ตามด้วยใส่ปุ๋ยหมักอัตรา 1 ตันต่อไร่ แล้วจึงไถพรวนอีกครั้ง ฉีดน้ำหมักชีวภาพ เจือจาง 1:200 พ่นให้ทั่วแปลง หมักทิ้งไว้ ถ้าให้น้ำ 2-3 วัน จะสามารถทำการปลูกพืชได้ ทำการใส่ปุ๋ยหมัก 1 ตันต่อไร่ ในช่วงก่อนปลูกพืช และช่วงระหว่างการเจริญเติบโตของพืช

ที่เสนอมาแล้ว นักวิชาการของกรมพัฒนาที่ดิน ได้แนะนำตัววิธีทำเกษตรอินทรีย์ ให้กับเกษตรกร และแจกจ่ายสารเร่งจุลินทรีย์ พด.1 และ พด.2 ทั่วประเทศ ไปรับได้ที่สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต หรือสถานีพัฒนาที่ดิน ที่ตั้งในจังหวัดใกล้บ้านของท่าน นะครับ...
http://mynessbuild.blogspot.com/2014/10/blog-post_29.html

วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ภาค2 บอกเล่าวิธีปลูกมะละกอพันธุ์อะไรดีจึงจะมีตลาดขาย


ภาค2 บอกเล่าวิธีปลูกมะละกอพันธุ์อะไรดีจึงจะมีตลาดขาย
-มะละกอพันธุ์ครั่ง เป็นมะละกอดิบหรือส้มตำพันธุ์ใหม่ที่ใช้ยาฆ่าแมลงและใช้เครื่องพ่นยาน้อย และที่มีผู้รายงานข่าวทำข่าวกันมากจนทำให้เกษตรกรปลูกกันเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ โดยชูข้อดีตรงที่เนื้อกรอบ หอม อร่อย หลังเก็บจากต้นแล้ว สดอยู่ได้นานกว่าพันธุ์อื่น 5-6 วันก็ยังไม่เหี่ยว และบอกว่าทนทานไวรัสจุดวงแหวนได้ดี(อันนี้จริงเปล่าไม่รู้) แต่ข้อบกพร่องก็คือ ผลมีร่องทำให้เวลาปอกเปลือก เปลือกสีเขียวจะติดอยู่ในร่องนั้น ขูดเส้นยาก ตอนนี้เริ่มมีปัญหาด้านตลาดแต่ผู้วิจัยก็ยังเพิ่งเปิดตัวครั่งพันธุ์ใหม่เนื้อเหลืองไปเมื่อเดือนที่แล้วอีกซึ่งครั่งเนื้อเหลืองจะทำให้เส้นส้มตำน่าทานมากขึ้น ผู้สื่อข่าวประโคมข่าวอีกเช่นเดิมแต่ปัญหาร่องที่ผลจะทำให้แม่ค้ายอมรับได้แค่ไหนต้องเกาะติดกันต่อไป

วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2557

พูดคุยการปลูกมะละกอพันธุ์แบบไหนดีจึงจะมีตลาดขาย


พูดคุยการปลูกมะละกอพันธุ์แบบไหนดีจึงจะมีตลาดขาย
จริงๆไม่ได้คิดที่จะเขียนบทความเรื่องนี้เลย เพราะคิดไม่คิดค่ะ แต่เมื่อวานมีคนเข้ามาถามในlineให้ช่วยหาตลาดมะละกอแขกดำให้หน่อย อย่างเช่นผมปลูกมะละกอพันธุ์ครั่ง เรดแคริเบี้ยนขายที่ไหนดี ทำให้คิดว่าเรามองข้ามเรื่องนี้ไปจริงๆ เพราะชีวิตอยู่แต่กับมะละกอฮอลแลนด์ เลยไม่ได้มองพันธุ์อื่น
- มะละกอฮอลแลนด์ คือพันธุ์ที่เป็นที่ดึงดูดและน่าลงทุนที่สุด เพราะเป็นพันธุ์มะละกอกินสุกที่นิยมที่สุดและใช้เครื่องพ่นยาน้อยที่สุด ตลาดกว้างไกล แม่ค้ารับซื้อเยอะที่สุด ส่วนที่ตกเกรดหรือเป็นโรคก็ยังทำการค้าเข้าโรงงานได้ ราคามะละกอจะยืนพื้นจากสวน 8-10 บาท/กก. ราคาขายส่งอยู่ที่ 15-20 บาท/กก. ราคาขายปลีกถึงผู้บริโภคอยู่ที่ 20-35 บาท/กก. ช่วงที่มะละกอขาดตลาด ราคาจากสวนพุ่งไปถึง 20-35 บาท/กก. ราคาขายส่ง 30-35 บาท/กก. ขายปลีกอยู่ที่ 40-50 บาท/กก. ด้วยเหตุที่เป็นช่วงที่มะละกอมีผลผลิตน้อย ผลไม้อื่นในท้องตลาดก็มีน้อย ราคาจึงสูงกว่้าพันธุ์อื่นๆ มะละกอที่จะมีผลผลิตออกช่วงนี้จะเป็นมะละกอที่ต้องออกดอกช่วงแล้งประมาณ มี.ค.-เม.ย. ซึ่งมะละกอจะไม่ค่อยติดผลเพราะดอกร่วงหมด ทำให้มะละกอมีผลผลิตค่อนข้างน้อยหรือขาดตลาดทุกปีในช่วงตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย. หรืออาจจะยาวไปจนถึง ต.ค. พ่อค้าแม่ค้าที่อยากขายมะละกอราคาแพงก็วางแผนปลูกให้มะละกอได้เก็บผลผลิตในช่วงดังกล่าว โดยใช้ระบบการจัดการน้ำและปุ๋ยเข้าไปช่วยเพื่อช่วยให้มะละกอติดผลได้ในช่วงดังกล่าวได้ล่ะก็ เตรียมตัวรับทรัพย์ก้อนโตได้เลย มีเงินทองเหลือเฟือไปซื้อเครื่องมือการเกษตรเยอะเลยคะ
-มะละกอแขกดำ เคยเป็นมะละกอกินสุกที่ครองตลาดในอดีต แต่วันนี้ล้าสมัยของแขกดำในตลาดกินสุกไปแล้ว แขกดำจึงเป็นมะกอที่หาที่ขายไม่เจอ ไม่รู้จะอยู่แหล่งไหนไหน กินสุกก็ได้แต่ก็สู้ฮอลแลนด์ไม่ได้ ตลาดไทมีแผงมะละกอ 100 แผง แต่มีเพียง 2 แผงที่ขายแขกดำและปริมาณการขายก็ไม่มาก แต่ในตลาดกินดิบหรือส้มตำ แขกดำก็ไปได้แต่ก็ไม่โดดเด่นเท่าแขกนวลที่มีคุณสมบัติดีกว่า
-มะละกอแขกนวล ถือป็นมะละกอกินดิบที่ครองตลาด เพราะเป็นมะละกอที่เนื้อกรอบ อร่อย แม่ค้าส้มตำชอบ อีกทั้งยังเป็นมะกอที่ติดดก ผลโตมากๆ มะละกอกินดิบมีจุดเด่นตรงที่เก็บเกี่ยวเร็ว 5 เดือนก็เก็บขายได้แล้ว จากนั้นจะเก็บกันทุก 15-20 วัน (ครั้งหนึ่งก็ประมาณ 20-25 ตัน ในพื้นที่ปลูกประมาณ 10 ไร่) มะละกอดิบดูแลจัดการง่ายกว่ามะละกอสุกเยอะ ไม่ต้องห่อผล ไม่ต้องระมัดระวังมากตอนเก็บ เก็บเสร็จแพ็คใส่ถุงพลาสติกถุงละ 10 กก.เก็บขึ้นรถขายได้เลย แต่ราคาก็จะอยู่ที่ 4-5 บาท ตลอดทั้งปี ช่วงราคาถูกก็อยู่ที่ 2 บาทค่ะ แทบไม่คุ้มค่าขนส่งเลยค่ะ
เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ ติดตามในบทความต่อไปนะคะ...

วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เทคนิคการเพาะเมล็ด/และเคล็ดลับการปลูกพริก


เทคนิคการเพาะเมล็ด/และเคล็ดลับการปลูกพริก
เท่าที่ได้เมล็ดพันธุ์พริกมาแล้ว ให้นำไปแช่น้ำร้อน ถ้าหญ้าเริ่มยาวให้ใช้เครื่องตัดหญ้า หลังจากนั้นใช้น้ำร้อนเทลงไปในภาชนะก่อน 1 ส่วนและตามด้วยน้ำเย็นอีก 1 ส่วน ทดสอบโดยมือจุ่มลงไปพอมือเราทนได้ ก็ใช้ได้หรือประเมิน 50  องศา แช่ไว้ราว 30 นาที ต่อไปนำไปห่อในผ้าขาวบาง บ่มไว้ 1 คืนแล้วนำเมล็ดไปเพาะได้ โดยบ่มไว้ในกระติกน้ำร้อนก็ได้ ใช้ถ้วยคว่ำแล้วเอาเมล็ดพริกวางบนถ้วยที่คว่ำไว้ เพื่อไม่เมล็ดพริกแช่น้ำที่เราพ่นใส่เมล็ดพริกที่บ่ม เมล็ด พริกจะได้ไม่เน่าไปซะก่อนครับ

วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เกษตรอินทรีย์ : ช่องทางใหม่ของเกษตรกรไทย

เกษตรอินทรีย์ : ช่องทางใหม่ของเกษตรกรไทย

การทำเกษตรกรรมของไทยมักพบปัญหาการขาดทุนตามที่เครื่องปั่นไฟราคาสูงขึ้น ซึ่งหนึ่งในต้นเหตุของปัญหานี้เกิดจากรายจ่ายในการจัดซื้อสารเคมีจำนวนมาก มาใช้เพื่อเร่งผลผลิต อย่างไรก็ตาม หากผลผลิตที่ได้มีราคาตกต่ำ การขาดทุนก็ยังคงมีอยู่อย่างไม่จบไม่สิ้น ในช่วงปัจจุบันกระแสการดูแลรักษาสุขภาพของประชากรโลกเริ่มมีมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจในการเลือกซื้ออาหารที่ปลอดภัยและปราศจากสารเคมีต่าง ๆ ที่เป็นพิษต่อร่างกาย ด้วยเหตุนี้เกษตรกรหลายรายจึงคิดหาวิธีการทำเกษตรกรรม แนวใหม่ เรียกว่า เกษตรอินทรีย์ (Organic Agriculture) โดยใช้เครื่องปั่นไฟมือสองเพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตและได้ผลผลิตที่เป็นที่ต้องการของตลาด โดยการพยายามประยุกต์ใช้ธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการใช้ปัจจัยการผลิตภายนอกและหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีสังเคราะห์ ซึ่งวิธีการทำเกษตรแนวนี้จะไม่เป็นอันตรายต่อทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค
เกษตรอินทรีย์ในประเทศไทย
สหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ (International Federation of Agriculture : IFOM) ให้คำนิยามของเกษตรอินทรีย์ว่าเป็น “ระบบการเกษตรที่ผลิตอาหารและเส้นใยด้วยความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ โดยเน้นแผนการปรับปรุงบำรุงดิน การเคารพต่อศักยภาพทางธรรมชาติของพืช สัตว์ และนิเวศการเกษตร เกษตรอินทรีย์จึงลดการใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าและอาจลดปัจจัยการผลิตภายนอก และหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีสังเคราะห์ เช่นปุ๋ย สารกำจัดศัตรูพืช และเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ และในขณะเดียวกันก็มุมานะประยุกต์ใช้ธรรมชาติในการเพิ่มผลผลิตและพัฒนาความต้านทานโรคของพืชและสัตว์เลี้ยง” หลักการเกษตรอินทรีย์จึงเป็นหลักการสากลที่สอดคล้องกับข้อตกลงทางเศรษฐกิจ สังคม ภูมิอากาศและวัฒนธรรมของท้องถิ่น เนื่องจากก่อให้เกิดผลผลิตที่ปลอดภัยจากสารพิษ และช่วยฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน มีหลักการของการอยู่ร่วมกันและพึ่งพิงธรรมชาติทั้งบนดินและใต้ดิน ใช้วัตถุปัจจัยการผลิตอย่างเห็นคุณค่า และมีการอนุรักษ์ให้อยู่อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาแบบเป็นองค์รวมและความสมดุลที่เกิดจากความหลากหลายทางชีวภาพในระบบนิเวศทั้งระบบ
ภาครัฐและเอกชนไทยเริ่มตื่นตัวที่จะพัฒนาสินค้าเกษตรของไทยเช่นเครื่องพ่นยา ให้มีคุณภาพและปราศจากสารพิษตกค้าง หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้นำเข้าสินค้าเกษตรของไทยเริ่มสำรวจคุณภาพ สินค้าอย่างเข้มงวด เนื่องจากพบว่ามีสารเคมีปนเปื้อน ซึ่งสร้างความเสื่อมเสียให้กับภาคเกษตรอย่างมาก ทางภาครัฐจึงรณรงค์ให้เกษตรกรหันมาทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งแบ่งการผลิตได้เป็น 2 แบบ คือ
1. เกษตรอินทรีย์แบบพื้นบ้าน ผลิตเพื่อการบริโภคในครัวเรือนเป็นหลัก และมีการนำผลผลิตบางส่วนไปค้าในตลาดท้องถิ่น แต่ผลผลิตนี้จะไม่ได้รับการรับรองมาตรฐาน
2. เกษตรอินทรีย์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน เป็นการทำการเกษตรเพื่อซื้อขายผ่านทางระบบตลาด และหากตรารับรองมาตรฐานทัดเทียมกับมาตรฐานจากต่างประเทศ จะทำให้ผลผลิตสามารถส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศได้ด้วย เกษตรอินทรีย์ของไทยยังอยู่ในช่วงระยะเริ่มแรก กลุ่มผู้ทำการเกษตรอินทรีย์ยังมีโควตาจำกัด ผู้ประกอบการและ ผู้ผลิตที่สำคัญได้แก่ เครือข่ายเกษตรอินทรีย์ที่ทำงานร่วมกับสหกรณ์กรีนเนท จำกัด และมูลนิธิสายใยแผ่นดิน คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 55.89 ของเกษตรกรที่ทำการผลิตเกษตรอินทรีย์ และมีพื้นที่ทำการเกษตรอินทรีย์คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 24.14 ของพื้นที่เกษตรอินทรีย์ทั้งหมดภายในประเทศ เป็นที่สังเกตว่า บริษัทอุตสาหกรรมการเกษตรสัดส่วนใหญ่ที่เป็นหน่วยงานของภาคเอกชน ซึ่งดำเนินกิจการสินค้าเกษตรเคมีอยู่เดิม เริ่มเข้ามามีบทบาทในการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์มากขึ้น เพื่อส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศอุตสาหกรรมเป็นหลัก เนื่องจากความต้องการเพิ่มสูงขึ้น
การผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทยเป็นการผลิตแบบง่ายๆ ไม่ใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อน ผลผลิตที่ได้ก็เป็นสินค้าพื้นฐาน เช่น ข้าว ผักและผลไม้ ส่วนการแปรรูปสินค้ายังมีน้อย เพราะวัตถุดิบมีปริมาณไม่มาก ยุคปัจจุบันมีผลผลิตที่จำหน่ายออกสู่ตลาดประมาณไม่เกิน 6,000 ตันต่อปี สำหรับสินค้าที่ไทยส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศได้แก่ ข้าว กล้วยหอม หน่อไม้ฝรั่ง กระเจี๊ยบเขียว สับประรด ขิง และสมุนไพรอีกหลายชนิด ตลาดเกษตรอินทรีย์ในประเทศไทยยังเป็นตลาดของผู้ผลิตคือ การผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ยังมีจำนวนน้อย ผู้ผลิตสามารถเป็นผู้กำหนดการตลาดได้ค่อนข้างมาก ราคาผลผลิตก็มีแนวโน้มสูงกว่าราคาสินค้าเกษตรทั่วไปประมาณร้อยละ 20-50 การที่ระดับราคาสูงกว่าสินค้าทั่วไปนี้ ไม่ได้เป็นเพราะว่ามีส่วนแบ่งการผลิตต่ำกว่าความต้องการของตลาดเท่านั้น แต่เนื่องจากเกษตรอินทรีย์จะต้องมีหลักประกันในเรื่องราคาผลผลิตที่ยุติธรรม ต่อผู้ผลิต จึงทำให้ต้นทุนการผลิตเกษตรอินทรีย์ค่อนข้างสูงกว่าการผลิตทั่วไป อย่างไรก็ดีมีการวิจัย พบว่า ผู้บริโภคจะยอมรับราคาผลผลิตที่สูงไม่เกินร้อยละ15-20

เกษตรอินทรีย์ในตลาดโลก
ประจุบันสินค้าเกษตรอินทรีย์เช่นเครื่องตัดหญ้าขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป ทั้งนี้จากผลการตรวจตราของศูนย์การศึกษาการค้าระหว่างประเทศ พบว่า ความต้องการสินค้าในปี 2541 สูงถึง 13,000 ล้านดอลลาร์สรอ. และในปี 2543 เพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ล้านดอลลาร์สรอ. อัตราการขยายตัวของตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์โดยเฉลี่ยในแต่ละปีสูงถึงร้อยละ 20
ในปี 2546 มูลค่าการค้าอาหารเกษตรอินทรีย์ในตลาดโลกมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 1-2 ของตลาดอาหารทั้งหมด และมีการคาดการณ์ว่าส่วนแบ่งตลาดจะเพิ่มเป็นร้อยละ 5-10 ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ประเทศที่มีการบริโภคอาหารเกษตรอินทรีย์ค่อนข้างสูงได้แก่ ประเทศในสหภาพยุโรป โดยเฉพาะตลาดเยอรมนี มีมูลค่าถึง 2,800-3,100 ล้านดอลลาร์สรอ. ในขณะที่สวิตเซอร์แลนด์มีสัดส่วนของอาหารเกษตรอินทรีย์ใน ตลาดอาหารสูงสุด คือ ร้อยละ 3.2-3.7 ส่วนอาหารเกษตรอินทรีย์ที่นิยมบริโภคได้แก่ กาแฟ ข้าว ชา ผักและผลไม้
หากแม้ขณะนี้รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ จะมีนโยบายสนับสนุนการผลิตอาหารเกษตรอินทรีย์ภายในประเทศ แต่กำลังการผลิตก็ยังไม่สามารถขยายตัวได้ทันกับความต้องการ เช่น ฝรั่งเศสที่เป็นประเทศผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่แห่งหนึ่งของโลก มีพื้นที่การผลิตอาหารเกษตรอินทรีย์เพียงร้อยละ 0.3 ของพื้นที่การเพาะปลูกทั้งหมด ส่วนปริมาณการบริโภคอาหารเกษตรอินทรีย์ของสหราชอาณาจักรมีมูลค่าประมาณ 450 ล้านดอลลาร์สรอ. ต้องนำเข้าถึงร้อยละ 60-70 ของปริมาณการบริโภคทั้งหมด ดังนั้นประเทศที่สามารถผลิตสินค้าเกษตรจึงหันมาผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์เพื่อการค้า ถึงกว่า 100 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วยประเทศในแอฟริกา 27 ประเทศ เอเชีย 18 ประเทศ อเมริกาใต้ 25 ประเทศนอกเหนือจากประเทศในแถบยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ทั้งนี้ประเทศที่กำลังงอกงามจะเป็นผู้นำในการผลิตสินค้าประเภทกาแฟ ข้าว ชา สมุนไพร ผัก และผลไม้ ในขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วจะเป็นผู้ผลิตสินค้าประเภทปศุสัตว์และ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นส่วนใหญ่
ทางเลือกใหม่ของเกษตรกรไทย

แม้ว่าตลาดเกษตรอินทรีย์จัดว่าเป็นตลาดใหม่สำหรับเกษตรกรไทย แต่ด้วยแนวโน้มของตลาดที่เติบโตขึ้นเป็นลำดับ จากการที่ผู้บริโภคต้องการสินค้ามากขึ้น ทั้งนี้เพราะความใส่ใจในด้านสุขภาพ ขณะที่ผู้ผลิตมีจำนวนจำกัด การผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ออกสู่ตลาดของเกษตรกรไทยจึงเป็นหนทางที่สดใสกว่าที่ไทย จะยังคงผลิตสินค้าเกษตรวีโกเทคทั่วไปแข่งขันกับประเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นจีน อินเดีย หรือเวียดนาม ที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าไทยมาก การปรับเปลี่ยนมาผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ ย่อมจะทำให้ไทยมีโอกาสส่งออกได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมที่มีความได้เปรียบทั้งทางด้านภูมิศาสตร์และ ภูมิอากาศ อีกทั้งยังเป็นประเทศผู้ประกอบการและส่งออกอาหารที่สำคัญ จึงย่อมมีโอกาสที่จะพัฒนาศักยภาพให้เป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของ โลกได้ แต่ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้เพียงใดนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะต้องให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง เช่น การสร้างความเข้าใจและความรู้ให้แก่เกษตรกร การให้บริการตรวจสอบรับรองหลักเกณฑ์ที่ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ เป็นต้น จึงนับได้ว่าเกษตรอินทรีย์เป็นทางเลือกใหม่ของเกษตรกรไทย ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตรและอาหารของประเทศ ในขณะเดียวกันจะช่วยเสริมให้โครงการ Food Safety ของรัฐบาลประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น และมีผลดีต่อเนื่องในด้านคุณภาพชีวิตของเกษตรกรจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งเกิดประโยชน์ทางอ้อมต่อสังคมและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติในที่สุด

ทำยังไงกับการปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษ

ทำยังไงกับการปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษ
  เป็นการปลูกผักไว้กินเองในครอบครัว โดยไม่ใช้สารเคมีในการกำจัดแมลงและวัชพืช  ซึ่งในสมัยปัจจุบันผักที่วางขายตามท้องตลาดมีสารเคมีตกค้างค่อนข้างมาก  ทำให้เป็นพิษภัยต่อผู้บริโภค   การปลูกฝังให้ผู้เรียนรู้จักปลูกพืชผักไว้รับประทานเองจะช่วยประหยัดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ในครอบครัวสอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของในหลวง
             สมัยนี้สภาพปัญหาทางเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของผู้บริโภคอย่างมาก  รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย   ผู้ปกครองไปรับจ้างต่างจังหวัดทิ้งลูกอยู่บ้านกับตายายรอรับเงินช่วงสิ้นเดือน   ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้เด็กไม่รู้จักวิธีการทำงาน  วิธีเพิ่มรายได้ในครอบครัว
กิจกรรมการปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษในโรงเรียนจะทำให้ผู้เรียนได้เรียนวิธีการปลูกการดูแลรักษาโดยไม่ใช้สารเคมี  เป็นกิจกรรมที่เด็กนักเรียนสามารถนำไปปฏิบัติที่บ้านได้
          จังหวัดสุรินทร์   มีพื้นที่ที่เหมาะในการปลูกพืชผักได้ตลอดปี   สภาพดินบริเวณแปลงเกษตรเป็นดินเหนียวเพราะนำดินที่ขุดจากสระมาถมพื้นที่แปลงเกษตร   ได้ปรับปรุงแก้ไขโดยใส่แกลบสดแกลบเผา  ปุ๋ยคอก  ปุ๋ยหมัก  สภาพของดินดีขึ้น   ในช่วงหน้าฝนปลุกข้าวโพด   มะเขือ   ถั่ว    ปลายฤดูฝนปลูกพืชผักตามฤดูกาล   นักเรียนที่ปฏิบัติการปลูก   ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่   5  ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่   3   โดยแบ่งแปลงให้แต่ละชั้นรับผิดชอบ
        ในการทำงานทำการปลูกในช่วงฤดูฝนให้นักศึกษาชั้น   ม. 1 - 3  ลงปฏิบัติ   ส่วนชั้น  ป. 5 - 6   ลงปฏิบัติช่วงปลายฤดูฝน   ขณะลงปฏิบัติงานให้ครูประจำชั้นช่วยควบคุมดูแลโดยแบ่งให้รับผิดชอบแปลงละ   2 - 3   คน  ปลูกผักหมุนเวียนตลอดปีการศึกษา
       กิจกรรมการปลูกสวนครัวปลอดสารพิษฝึกให้นักเรียนมีความรับผิดชอบ  มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่  รู้จักช่วยเหลือเพื่อน    มีความรู้ความเข้าใจวิธีการปลูกผักปลอดสารพิษ  รู้จักใช้วัสดุที่มีในท้องถิ่นให้เกิดคุณประโยชน์และสามารถนำไปปฏิบัติที่บ้านได้
   การปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษทำให้ชีวิตปลอดภัยจากสารเคมี  ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว   ผู้เรียนสามารถนำไปปฏิบัติที่บ้านเป็นแบบอย่างในที่ส่วนรวมได้
การป้องกันและกำจัดศัตรูพืชผัก เพื่อให้ได้ผลผลิตพืชผักที่ปลอดภัยจากสารพิษ ควรใช้หลาย ๆ วิธี ผสมผสานกัน ทั้งวิธีกล การใช้สารชีวินทรีย์ สารธรรมชาติ และสารเคมีร่วมกันในการป้องกันกำจัดควบคู่กันไปกับการจัดการที่ดี

การเก็บเกี่ยวผลผลิต ควรเก็บในระยะที่มีอายุแก่เหมาะสม ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของพืชผัก เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณค่าทางอาหาร รสชาติ และรูปพรรณรูปร่าง สีสัน ความสุกเหมาะสมและดีที่สุด เมื่อถึงมือผู้บริโภค การเก็บเกี่ยวควรทำด้วยความระมัดระวัง อย่าให้เกิดร้อยช้ำ รอยขีดข่วน เพื่อรักษาคุณภาพให้ดีที่สุด การสูญเสียของพืชผักหลังการเก็บเกี่ยวมีสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำบลอากาศร้อนของประเทศไทย ผักกินใบเป็นผักที่เน่าเสียได้ง่าย โดยเฉพาะหากในระหว่างเก็บเกี่ยวผักมีการ บอบช้ำ ฉีกขาด หรือเป็นแผลจากการเก็บเกี่ยว และการขนย้ายที่ไม่ดีทำให้เชื้อโรคต่าง ๆ เข้าทำลายง่ายดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการสูญเสียของพืชผักควรต้องมีการปฏิบัติอย่างถูกต้องและเหมาะสมทั้งก่อนการเก็บเกี่ยว และหลังการเก็บเกี่ยว
การรักษาคุณภาพผลผลิตพืชผักเบื้องต้นในแปลงหลังการเก็บเกี่ยวแล้ว ต้องรีบนำเข้าที่ร่ม อย่าให้ตากแดด แล้วรีบร้อนระบายความร้อนภายในผลผลิตลง โดยการแผ่ออก อย่าวางสุมทับซ้อนกัน

วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

เครื่องดูดฝุ่นอย่างไหน เหมาะสำหรับ ห้องปฏิบัติงานของคุณ

เครื่องดูดฝุ่นอย่างไหน เหมาะสำหรับ ห้องปฏิบัติงานของคุณ

ไม่ว่าห้องทำงาน (อดิเรก) ของคุณจะอยู่ที่ไหน ข้างบ้าน ในสวน โรงรถ บนโต๊ะกินข้าว หรือห้องเป็นสัดเป็นส่วน เครื่องมือเป็นเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ช่วยให้การทำงานสะดวกราบรื่นกิคือ สะอาด...ลงทุนกับเครื่องดูดฝุ่นสักเครื่อง

แล้วจะพบว่า คุณสนุกกับงานอดิเรกขึ้นเยอ (เพราะคนข้าง ๆ จะไม่บ่นเรื่องฝุ่นเต็มบ้านอีกต่อไป)

เลือกเครื่องดูดฝุ่น ต้องดูอะไรบ้าง
1. กำลังไฟและพลังแรงดูด
กำลังไฟ คือ จำนวนไฟที่เข้าสู่เครื่อง หรือ Power Input เป็นค่าที่บ่งบอกว่า เครื่องดูดฝุ่นนั้น ๆ กินไฟเท่าไรต่อชั่วโมง มีหน่วยเป็นวัตต์ คนส่วนใหญ่มักคิดว่า กำลังไฟยิ่งมาก หมายถึงสามารถดูดได้ แรงกว่า แต่ไม่ใช่ความ

จริงเสมอไป ต้อง ดูค่าพลังแรงดูดที่เป็น Power Output ซึ่งจะบอกถึงแรงดูดของเครื่องด้วย มี หน่วยเป็นวัตต์เหมือนกัน แต่ตัวเลข น้อยกว่า

2. ค่าหมุนเวียนอากาศ (Air Flow)
เป็นค่าที่บ่งบอกความไวในการดูดฝุ่น เข้าสู่ตัวถัง ขึ้งแสดงถึงความสามารถ ในการดูดของเครื่องนั้นๆได้ดีกว่ากำลังไฟ มีหน่วยเป็น CFM (ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที) หรือ 1/sec. (ลิตรต่อวินาที)

3. ระบบกรองฝุ่น
สำคัญมาก โดยเฉพาะเมื่อคุณเป็นโรคภูมิแพ้หรือที่บ้านมีสัตว์เลี้ยง เหตุเพราะ ในการทำงานของเครื่องดูดฝุ่นนั้นไม่ใช่ แค่ดูดลมเข้าไป แต่ต้องเป่าลมออกที่ ด้านหลังของเครื่องด้วย ระบบกรองที่ดี จะช่วยกรองให้ลมที่ออกมานั้นสะอาด

ควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีแผ่นกรองที่ เรียกว่า HEPA Filter ขึ้งสามารถถอด ล้างได้ ปัจจุบันนี้เครื่องรุ่นใหม่ ๆได้พัฒนา ให้มีระบบกรองชนิดนี้ แม้แต่เครื่องแบบ ใช้งานหนัก


4. ภาชนะเก็บฝุ่น
ภาชนะที่ใช้เก็บกักฝุ่นของเครื่องดูดฝุ่นหลัก ๆ แล้วมี 3 ชนิด อย่างไรก็ตาม ไม่ควรมองข้ามความจุของภาชนะ เก็บฝุ่น ถ้าจุได้มากก็ไม่ต้องเทบ่อย ๆ

ถุงกรองฝุ่น ข้อดีคือ เมื่อถุงเต็มก็ทิ้ง ลงกังขยะได้ง่ายดาย ผู้ใช้ไม่ต้องสัมผัส กับฝุ่น แต่มีข้อเสียคือ ต้องจ่ายเงินซื้อ ถุงกรองฝุ่น ซึ่งหลายคนอาจพบปัญหา ถุงกรองรุ่นนั้นๆ เลิกผลิตหรือขาดตลาด ทำให้ไม่สามารถใช้เครื่องได้
กล่องเก็บฝุ่นหรือแบบไร้ถุง (Bagless) แบบนี้ไม่ต้องมีถุง จึงประหยัด มักเก็บฝุ่นได้เยอะกว่า แต่ตอนเทฝุ่นอาจฟุ้ง กระจาย ไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้ฝุ่น
ถังน้ำมักมาคู่กับเครื่องดูดฝุ่นสำหรับ งานหนักที่ดูดไต้ทั้งฝุ่นและน้ำ ฝุ่นที่ดูดเข้ามาจะเก็บไว้ในกังบรรจุน้ำ ทำให้ตอนเททิ้งฝุ่นไม่ฟุ้ง เหมาะสมกับผู้ที่แพ้ฝุ่น มาก ๆ แต่ถังน้ำทำให้เครื่องมีน้ำหนักมาก และต้องล้างถังทุกครั้งที่ใช้งานเสร็จ

เพราะอาจทำให้เกิดเชื้อราสะสมภายในเครื่อง
อื่นๆ

เลือกเครื่องที่มีหัวดูดให้เหมาะสมกับราคาเครื่องดูดฝุ่นและการใช้งาน เช่น หัวดูดเฟอร์นิเจอร์ หัวดูดมุ้งลวด เป็นต้น
สายไฟที่ให้มาต้องยาวพอและดึงเก็บ อัตโนมัติไต้สะดวก ไม่ติดขัด
ล้อเคลื่อนที่ได้สะดวก
เสียงเมื่อเปิดใช้เครื่องไม่ควรดังเกินกว่า มาตรฐานที่กำหนดคือ 80 เดซิเบล
ท่อและด้ามสำหรับดูดฝุ่นแข็งดี

วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2557

มะละกอต้นเตี้ย แตกกอ ดกสุดๆ แหวกแนวสุดๆ

มะละกอต้นเตี้ย แตกกอ ดกสุดๆ แหวกแนวสุดๆ

ปลูกขายได้เหมือนมะละกอทั่วไป ผลผลิตเพิ่ม 3 เท่าตัว
ข้อเท็จจริงการปลูกมะละกอพันธุ์นี้ถ้าคนในวงการเกษตรหรือคนที่อ่านรักษ์เกษตรประจำจะรู้จักกันดีค่ะ ชื่อ มะละกอกลางดง ค่ะ เพราะเจ้าของตั้งชื่อตามตำบลที่อยู่หลังจากที่ได้พันธุ์มาค่ะ มีการเผยแพร่พันธุ์และปลูกกันมานานหลายปีแล้วค่ะ เป็นมะละกอต้นเตี้ยมากค่ะ ที่แปลกยิ่งกว่ามะละกอทุกสายพันธุ์ ก็คือ พันธุ์นี้แตกกอเองโดยสายพันธุ์ค่ะ ต้นหนึ่งจะแตกกิ่งตรงโคนต้นออกมาเป็นจำนวนมากค่ะ แต่เราเลือกไว้เพียง 3-4 กิ่งนะคะ ไม่อย่างนั้นกิ่งมันจะชนกันค่ะ แล้วลูกมะละกอจะไม่ค่อยใหญ่โตค่ะ
มะละกอพันธุ์นี้เป็นมะละกอที่เหมาะสำหรับทานดิบเพราะเนื้อจะกรอบ อร่อยค่ะ ติดดกมากๆ ปลูกเชิงการค้าได้ค่ะป้อนตลาดส้มตำและมีเกษตรกรที่ปลูกขายกันมาหลายปีแล้วค่ะ ผลสุกทานได้อร่อยเหมือนกันแต่จะสู้พันธุ์สำหรับทานสุกโดยเฉพาะอย่างฮอลแลนด์ หรือ แขกดำไม่ได้ค่ะ
วิธีปลูกมะละกอและการให้ผลิตผลเหมือนมะละกอทั่วไปค่ะ ประกันปลูกมะละกอพันธุ์นี้ไว้ ถามกันทั้งหมูบ้านค่ะ ต้นกล้าเมือก่อนแพงมากค่ะ ตอนนี้ราคาไม่แพงล่ะ ปกติขายต้นละ 50 บาทค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557

ผู้ร่วมทีมในโครงการปลูกแคนตาลูปส่งมูนสตาร์ของเรา


เอาการรุดหน้าของ ผู้ร่วมทีมในโครงการปลูกแคนตาลูปส่งมูนสตาร์ของเราที่ใช้เครื่องปั่นไฟราคาช่วย ที่ จ.กาญจนบุรี มาฝากค่ะ แปลงนี้อายุเกือบเดือนละ ถ่ายมาคราวที่แล้วต้นเล็กอายุ 18 วัน ต้นยังเล็กอยู่เลยค่ะ ผ่านมาแค่ 10 กว่าวัน อัดปุ๋ย อัดยาเข้าไป พุ่งปรี๊ดเลย อย่างที่เห็นเลยค่ะ ยอดพุ่งไปเกือบถึงเชือกเส้น 3 เลย ติดลูกเกือบเท่าไข่ไก่ล่ะ อีกไม่กี่วันจะแขวนลูกล่ะ เดี๋ยวเข้าไปสอนวิธีการแขวนลูกให้หน่อยค่ะ พร้อมกับเยือนกันด้วยค่ะ แปลงนี้ถือว่ามีความล้มเหลวน้อยมาก นับต้นเสียหายได้เลยค่ะ เพราะโชคดีที่ฝนไม่ชุกเหมือนบางพื้นที่ โรค-แมลงเลยไม่มากค่ะ ไวรัสก็น้อยมากๆค่ะ
คุณขนิษฐา ต้นตำรับแปลงนี้เป็นผคนที่เคยเปิดร้านขายแม่แรงกระปุกมาก่อน ชาวไร่อ้อย ไร่มัน ที่ตัดสินใจไถมันทิ้งแล้วเอาพื้นที่ 2 ไร่ แบ่งมาปลูกแคนตาลูปกับเราในโครงการค่ะ เพราะมองเห็นความหวังและอนาคตที่ดีกว่าค่ะ 2 ไร่ 6,000 ต้น กับงานที่ต้องทุ่มเทและเหนื่อยกว่าการทำไร่อ้อย ไร่มันเยอะค่ะ แต่แคนตาลูปก็จะให้ผลได้ที่ดีและรายได้ที่คุ้มค่าเหนื่อย ไม่ต้องรอนานเป็นปีเหมือนอ้อยกับมัน กับรายได้เพียงปีละครั้ง ยังไงก็จะไม่ต้องเสียใจแน่นอนค่ะที่ตัดสินใจไถมันทิ้ง และเราจะพาคุณไปสู่ความสำเร็จให้ได้ เลื่อยโซ่ยนต์ราคาไม่แพงมาก แม้ว่ามันจะเป็นการปลูกแคนตาลูปครั้งแรกในชีวิตที่เต็มไปด้วยความหวัง ความตั้งใจและพลังที่สู้เต็มร้อยค่ะ
หลังเห็นความสำเร็จที่แม้จะเพียงครึ่งทาง แต่คุณขนิษฐาตัดสินใจไถมันทิ้งอีก 2 ไร่ เตรียมลงรุ่น 2 กับเราแล้วค่ะ นี่คือความเชื่อมั่นที่มีให้กับโครงการ
เราจะศึกษาไปพร้อมกันและเดินไปพร้อมกันค่ะ ขอแค่มีความกล้าหาญและเลื่อมใสที่จะเดินไปข้างหน้าค่ะพร้อมแจกเครื่องพ่นสีฟรีคะ

เผื่อแผ่วิทยา มาทำความรู้จักปั๊มน้ำกัน

เผื่อแผ่วิทยา มาทำความรู้จักปั๊มน้ำกัน

ปั๊มน้ำ เป็นเครื่องมือไฟฟ้าอีกพวกหนึ่งที่ใช้มาก ในอุตสาหกรรมและ ตามบ้านเรือน โดยล้วนๆตามที่พักอาศัยซึ่งเป็นอาคารชุด ตามอาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ต่างๆ หรือในบางพื้นที่ที่ต้องการสูบน้ำจากใต้ดินขึ้นมาใช้
ดังนั้นการรู้จักมักคุ้นซื้อ รู้จักวิธีใช้และการติดตั้ง “ปั๊มน้ำ” อย่างถูกวิธีจะไม่ก่อให้ เกิดการรั่วไหลและสิ้นเปลืองพลังงานและเป็นการใช้ไฟฟ้าและใช้น้ำอย่างมี ประสิทธิภาพ

ตระกูลของปั๊มน้ำ (ตามลักษณะการทำงาน)
ปั๊มแบบใบพัด
ปั๊มชนิดนี้ภายในเรือนปั๊ม จะมีใบพัด ปฏิบัติภารกิจสร้างความดัน จากการหมุนที่ความเร็วรอบสูงและแรงดันทำให้ น้ำไหลไปตามท่อที่ต่อ'ไว้ได้ นิยมนำมาใช้ใน อุตสาหกรรมและตามที่อยู่อาศัยทั่วไป เพราะ การไหลของนาจะต่อเนื่องสม่ำเสมอ

ปั๊มแบบลูกสูบ
ปั๊มน้ำวิธานี้เรือนปั๊มหอยโข่งเป็นกระบอกสูบ ภายในจะมีลูกสูบ ทำหน้าที่สร้างความดันจากการเคลื่อนที่ของลูกสูบ ทำให้ปริมาตรของ กระบอกสูบลดลงเกิดเป็นความดันเพื่อขับดันนาให้ไหลไปได้ แต่การไหลของนา จะเป็นช่วงๆ ตามจังหวะการเคลื่อนที่ของลูกสูบ ส่วนใหญ่นำไปใช่ในงาน ที่ต้องการความดันสูง

การทำงานของปั๊มน้ำ
ปั๊มน้ำที่ใช้ภายในบ้านเป็นชนิดที่มี ใบพัดภายในหัวปั๊มหรือปั๊มน้ำบาดาล  ใบพัดเป็นตัวสร้างความดันเพื่อ ขับดันให้น้ำไหลไปได้โดยมีชุดสวิตซ์ความ ดันเป็นเครื่องใช้ไม้สอยควบคุมการทำงานของ ปั๊มน้ำ ในการติดตั้งปั๊มน้ำ ท่อส่งน้ำ จะต่อโดยตรงกับจุดใช้น้ำ เช่นฝักบัว ก๊อกน้ำ ชักโครก เป็นต้น ดังนั้นเมื่อเราเปิดฝักบัวหรือก๊อกน้ำ น้ำจะ ไหลออกจากท่อหรือระบบทำให้ความดัน ภายในท่อลดลงส่งผลให้เกิดการดัดต่อของ สวิตซ์ความดัน ปั๊มน้ำจึงทำงาน
การเปิดก๊อกน้ำมีผลต่อการทำงาน ของปั๊มน้ำเป็นอย่างมาก ถ้าเราเปิดก๊อก น้ำเพียง ตัว และน้ำไหลไม่แรงมากแล้ว การทำนจะไม่ตัดต่อบ่อยเพราะยังมี ความตันเหลืออยู่ในเส้นท่อมากควรใช้ปั้มน้ำอัตโนมัติ แต่ถ้าเรา เปิดก๊อกให้น้ำไหลแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ท่าให้ความดันเสียเร็วขึ้นปั๊มน้ำก็จะ ท่างานบ่อยมากขึ้น ตังนั้นเพื่อเป็นการ ประหยัดน้ำและไฟฟ้าควรเปิดก๊อกน้ำใช้ตามความจำเป็น แต่ในกรณีที่เราจำเป็นจะต้องเปิดใช้น้ำหลายจุด พร้อมกัน เช่น ใช้ฝักบัวอาบน้ำพร้อมกับล้างจานและรดน้ำต้นไม้ จะทำให้ปั๊มน้ำทำงานทุกเมื่อ ดังนั้นการใช้น้ำในแต่ละจุดจึงไม่ควร เปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ทุกวัน

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

บริษัทไจแอ้นท์เรล (Giant Rail Co) ผู้ครอบครองสัญญาสัมปทาน


บริษัทไจแอ้นท์เรล (Giant Rail Co) ผู้ครอบครองสัญญาสัมปทาน ลงนามความตกลงว่าจัดจ้างบริษัทที่หารือจากมาเลเซีย ให้ออกแบบเลื่อยวงเดือนรายละเอียดของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงรางคู่ ระยะทาง 220 กิโลเมตร จากชายแดนไทยที่เมืองไกสอน พมวิหาน แขวงสะหวันนะเขต ไปยังด่านลาวบ๋าว ชายแดนเวียดนาม

บริษัทดิจิแม็ป (Digimap Snd Bhd) ผู้จำหน่ายตู้เชื่อมไฟฟ้า ซึ่งเป็นที่ปรึกษาหารือโครงการอยู่แล้ว จะทำการออกแบบรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้สามารถเริ่มการก่อสร้างได้ในปี 2558 นี้ สื่อของทางการลาวรายงานในวันจันทร์ 15 ก.ย.นี้ เกี่ยวกับพิธีเซ็นสัญญาระหว่างสองฝ่ายที่จัดขึ้นในนครเวียงจันทน์ เมื่อวันที่ 11 สำหรับรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่มีระยะเวลาใบอนุญาต 50 ปี มูลค่าราว 5,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมทั้งมูลค่าการลงทุนพัฒนาสิ่งก่อสร้างต่างๆ ด้วย
     
       ไจแอ้นท์เรล ซึ่งเป็นบริษัทลูกของไจแอ้นท์คอนโซลิเดทเต็ด กับดิจิแม็ปเบอร์ฮาร์ดที่จำหน่ายเครื่องมือช่าง ได้เซ็นความตกลงให้คำปฏิญาณหลักระหว่างกันเมื่อวันที่ 5 พ.ย.2555 ในช่วงที่มีการหารือผู้นำอาเซียน ที่ลาวเป็นเจ้าภาพ โดยนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิบ ราซัค ในขณะนั้น กับ นายกรัฐมนตรีลาวทองสิง ทำมะวง ร่วมเป็นประจักษ์พยาน สำหรับการก่อสร้างโครงการ ที่จะช่วยเปลี่ยนลาวจากประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล เป็นประเทศแห่งการต่อเชื่อมอนุภูมิภาค
     
       ทางการลาว กับบริษัทไจแอ้นท์เรล ได้จัดระเบียบแบบแผนเปิดหน้าดินขึ้นในแขวงสะหวันนะเขต ในเดือน ม.ค.ปีนี้ โดยหวังว่าจะสามารถเริ่มการก่อสร้างได้ทันทีโดยใช้สว่านไฟฟ้า หลังจากล่าข้ามานานแรมปี แต่ในที่สุดก็ยังไม่สามารถลงมือได้ ฝ่ายผู้ลงทุนกล่าวอ้างว่า ระหว่างการการสำรวจความเป็นไปได้ของโครงการนั้น ได้พบวัตถุระเบิดที่หลงเหลือตั้งแต่ครั้งสงครามจำนวนมาก ตามเส้นทางรถไฟฟ้าที่จะสร้างขนานไปกับทางหลวงเลข 9 ซึ่งจะต้องเก็บกู้ให้หมดเสียก่อน
     
       บริษัทจากมาเลเซีย เคยขยายความในเดือน พ.ย.2555 ภายหลังการเซ็นสัญญากับรัฐบาลลาว โดยระบุว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ทันทีในปี 2556 การเซ็นข้อตกลงกับบริษัทที่ปรึกษา เพื่อให้ดีไซน์โครงการในรายละเอียดเมือสัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญสำหรับโครงการ ในขณะที่งานด้านอื่นๆ ซึ่งรวมทั้งการเก็บกู้วัตถุระเบิด ได้ดำเนินคู่ขนานกันไป สื่อของทางการกล่าว ในเดือน ก.ค.ปีนี้ ทางการลาวกับบริษัทผู้ลงทุน ได้จัดการรวมกันสัมมนาเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับโครงการทางรถไฟความเร็วสูงลาว-เวียดนาม ค้ำประกันในความพร้อมของเงินลงทุน และให้ความมั่นใจแก่ทุกฝ่ายว่า โครงการยังคงเดินหน้าต่อไป แม้ว่าที่ผ่านมาจะเกิดการติดขัดที่ไม่คาดคิดหลายประการตามที่กล่าวมาแล้ว

แม้กระนั้น จนถึงช่วงปัจจุบันก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ทางรถไฟความเร็วสูงรางมาตรฐานขนาด 1.435 เมตร ที่ออกแบบเพื่อการคมนาคมและการขนส่งสินค้านี้ จะไปเชื่อมต่อกับระบบรถไฟในเวียดนาม ที่ยังใช้รางกว้างเพียง 1 เมตรอย่างไร และจะก่อสร้างต่อไปอย่างไร หลังจากไปถึงชายแดนเวียดนาม
     
       ตามบอกก่อนหน้านี้ ไจแอ้นท์คอนโซลฃิเดทเต็ดที่จำน่ายเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ได้เปิดการเจรจากับทางการเวียดนาม เกี่ยวกับการถกลทางรถไฟอีกช่วงหนึ่ง ไปเชื่อมต่อกับระบบรถไฟเวียดนามที่ จ.กว๋างจิ โดยหวังว่าจะสามารถสร้างการเชื่อมต่อไปไปจนถึงท่าเรือน้ำลึกแห่งใหม่ ทางตอนเหนือของนครด่าหนัง ที่อยู่ใต้ลงไปได้
     
       เมื่อมองในเชิงยุทธศาสตร์ ทางรถไฟลาว-เวียดนาม ประสานต่อแผนการก่อสร้างระเบียงขนส่งแนวตะวันออก-ตะวันตก ที่ทะลุเข้าสู่ดินแดนไทย ไปออกทะเลในอ่าวเมาะตะมะของพม่า เช่นเดียวกันกับทางหลวงเลข 9 ที่สามารถทะลุทะลวงเข้าสู่ไทยได้ในที่สุด และประจุบันรอเชื่อมกับทางหลวงสายแม่สอด-มะละแหม่ง ในพม่า ที่อำนาจก่อสร้างอยู่ในขณะนี้เท่านั้น

วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557

สนทนาเฟื่องเรื่องมะม่วง การปลูกมะม่วงช่วงเดือนมิถุนายน 2557

สนทนาเฟื่องเรื่องมะม่วง การปลูกมะม่วงช่วงเดือนมิถุนายน 2557
สวัสดีขอรับกระผมญาติพี่น้องเกษตรกรไทยที่ชอบปลูกผักทุกท่านสำหรับมะม่วง เมื่อเดือนที่แล้วคลำหาขายเกรดนางฟ้าเกาหลีกันแทบไม่ทัน จนโรงอบไม่เพียงพอต่อการอบไปเกาหลี มาเดือนนี้ตลาด เกาหลีเงียบไปเลย เนื่องจากโดนแตงโมมาเลย์เข้ามาขาย มะม่วง เลยเงียบ เพราะไปกินแตงโมที่ถูกกว่ามะม่วง ทำให้เดือน พฤษภาคมปลายๆ นางฟ้าเลยราคาตกไปเลยครับพี่น้อง หลายๆ บริษัทพยามดันไป หรือโยกไปตลาดจีน ก็โดนมะม่วง ที่ไปเกาหลีไม่ได้ไปรอที่ท้องตลาดจีนกันเต็มไปหมด ราคาดิ่งทันที ปลายทางจีน ประกอบกับมะม่วงจีนทางหนานหนิงเริ่มจะออก กับมะม่วงไต้หวันมาประดังกันพอดี ถามว่าเลวร้ายไหม ก็ไม่ขนาดนั้น แต่ไม่ค่อยยอมรับราคานางฟ้าที่ตกลงแค่นั้นเองครับ แต่ก็คงไม่นานนัก ต้นๆ เดือนนี้ก็ดีแล้วครับ กลางเดือนไปก็ แพงอย่างเดิม

เพราะว่าตลาดอินโด ตอนนี้ก็มีมะม่วงท้องถิ่นออกมา แล้ว ไม่กินมะม่วงไทยสักพักหนึ่ง ประกอบกับของไทยสินค้าเกษตรเช่นเครื่องพ่นยาไฟฟ้า มะม่วงปลายเดือนก็ผลิตกรรมน้อยลงไปแล้วไม่ต้องเหนื่อยแข่งราคากัน สำหรับอินโดนีเซีย แต่ตลาดจีนยังคงต้องดันกับราคาในไทย เพราะในเดือนกรกฎาคม ของในประเทศเราติดจะน้อย


แม้ว่ามะม่วงจีนจะออกพอดีการปรากฏซื้อแพงขายถูกก็เดือน นี้ละครับ จะให้ดีก็ขายแค่ภายในประเทศครับช่วงนี้ แพงอยู่แล้ว สำหรับมะม่วงของเชียงใหม่ปีนี้ ผลผลิตสวย เกรด นางฟ้าค่อนข้างมากเลยทีเดียว เพราะไม่ค่อยสวยมาหลายปี ติดกัน ปีนี้แก้มือได้แล้ว สวยๆ ทั้งนั้น เพราะเกษตรกรเก่งๆได้ราคาเครื่องตัดหญ้าที่ถูกลง กันทั้งนั้น สมัยนี้แต่ละสวนก็มีลูกค้าบ่อยๆจับจองกันทั้งนั้นดีใจแทนครับ มะม่วงก็ดีไปอย่าง ตลาดรอรับซื้อตลอดทั้งปี ทั้งจีน เกาหลี อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และมาเลเซีย เป็นต้น
เพราะว่ามะม่วงมหาชนกปีนี้ ตลาดผลสดไม่ค่อยดีนักเนื่องจากไฟฟ้าแพงแต่เครื่องปั่นไฟ ราคาถูกลง จะเป็นด้วยสาเหตุอะไรไม,ทราบแน่ซัดนัก แต่ตลาดอืดมากๆ สำหรับผลสดมหาชนก แต่ตลาดแช่แข็งก็พอไปได้ครามครันๆ โรงงาน ส่วนมะม่วงอาทูอีทูไปได้ดีครับสำหรับปีนี้ ไม่พอขาย สำหรับเกรดส่งออก
สรุปคุณประโยชน์ของมะม่วงในเดือนมิถุนายนนี้มีอืดๆในช่วงต้นเดือน นิดหน่อย เลยช่วงนี้ไปแล้วตลาดนางฟ้าไปได้ดีละครับ ปีนี้ก็คง ไม่พอขายอยู่ดีมะม่วงเชียงใหม่ปีนี้ ขอให้พี่น้องเกษตรกรดูแล สวนกันดีๆ นะครับ ตื่นกลัวอย่างเดียวที่ไม่ได้ขาย คือพายุมาจาก ไหนไม่รู้ ฟัดซะร่วงหมดด้นแค่นั้นละครับมะม่วงไทย

การปลูกอ้อยเพื่อลดต้นทุนทวีคูณผลผลิต หัวใจสำคัญที่จะอยู่รอดของเกษตรกรชาวไร่อ้อย

การปลูกอ้อยเพื่อลดต้นทุนทวีคูณผลผลิต หัวใจสำคัญที่จะอยู่รอดของเกษตรกรชาวไร่อ้อย

ทั้งหมดของเกษตรกรชาวไร่อ้อยของประเทศไทย แม้ว่าจะดูทรงตัว มีอุปสรรคน้อยกว่าพืชชนิดอื่นๆ ที่ราคาขึ้นลงแต่ละปีไม่เท่ากัน ในขณะที่ตันทน การผลิตเพิ่มขึ้นทุกปี แต่อ้อยเป็นพืชที่มีการคุมราคาโดยกฎหมายอย่าง ชัดเจน ทำให้ราคาขายถูกกำหนดขึ้นโดยคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล ซึ่งมี ทุกภาพส่วนเป็นคณะกรรมการ ทั้งผู้ประกอบการ เกษตรกร รัฐบาล อีกทั้งอ้อย ยังเป็นพืชที่มีกองทุนส่าหรับช่วยเหลือเกษตรกรส่วนหนึ่ง ที่เฉลี่ยแล้วไม่ลำบาก เหมือนกับเกษตรกรที่ทำเกษตรกรรมในสาขาอื่นๆ
นายมานะ ไม้หอม นายกสมาคมชาวไร่อ้อยที่เคยจำหน่ายรถตัดหญ้าเขต 6 กำแพงเพชร เปิด เผยกับ เกษตรโฟกัส ว่า หากดูจากสถานการณ์ของเกษตรกรซาวไร่อ้อยที่ผ่านมา ค่อนข้างทรงตัว แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนไปมาก นอกจากความช่วยเหลือ จากภาครัฐในการควบคุมราคาทั้งระบบของอ้อยและน้ำตาลแล้ว ลิงสำคัญที่ เกษตรกรซาวไร่อ้อยจะต้องปรับตัวเพื่อเตรียมรับกับสถานการณ์การเพิ่มขึ้นของ ต้นทุนการผลิตในหลายๆ เรื่อง อาทิ แรงงาน ที่ปัจจุปันหายากขึ้น มีค่าแรงสูง ขึ้น แม้ว่าเกษตรกรซาวไร่อ้อยในปัจจุบันจะหันมาใช้เครื่องจักรมากขึ้น แต่ด้วย ความไม่เหมาะสมและลงตัวของพื้นที่ ทำให้เครื่องจักรทำงานไดไม่พอสมควร และ คุ้มค่า เนื่องจากติดปัญหาขนาดของพื้นที่แปลงปลูกของประเทศไทยมีขนาดนั้น
การใช้เครื่องจักรกลขนาดใหญ่ในการทำงานจึงไม่สะดวก และเกิดความล่าช้า

เว้นแต่ว่าปัญหาดังกล่าวแล้ว ในระบบการขนส่ง หรือ”โลจิสติกส์ในการ ขนส่งอ้อยเช้าสู่โรงงาน เกษตรกรก็ต้องเผชิญกับปัญหาราคาน้ำมันและราคาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่มีแนวโน้มสูง ขึ้นอยู่ตลอดเวลา ตังนั้นหากแปลงปลูกอ้อยของเกษตรกรอยู่ห่างจากโรงงานมากก็จะต้องเสียค่าบริหารงานจัดการในการขนส่งเพิ่มขึ้นไปอีก ถึง ณ ขณะนี้แม้จะไต้รับ
ความช่วยเหลือจากภาครัฐ ในอนาคตก็ ทำให้คาดการณ์ได้ว่า ในเรื่องของราคาขายกับต้นทุนในการปลูก การขนส่ง และเงิน ช่วยเหลือจากกองทุน จะไม่คุ้มค่ากับการ ลงทุนก็เป็นได้

“อย่างนั้นทางรอดสำคัญที่จะทำให้เกษตรกรอยู่รอดได้ในอนาคต คงหนีไม่พ้นเรื่อง การบริหารจัดการ ลดต้นทุนเครื่องมือการเกษตรเช่นปั๊มน้ำหรือเลื่อยยนต์เพื่อเพิ่มผลผลิต โดย ในส่วนของข้อมูลวิชาการ เทคโนโลยี หรือ นวัตกรรมต่างๆ ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันเชื่อว่า เกษตรกรได้เรียนรู้และมีความรู้ความเช้าใจกัน อยู่แล้ว ซึ่งสิ่งที่เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องคืบหน้า ในตอนนี้คงจะต้องมองที่พันธุอ้อยคุณภาพที่ เหมาะสมกับพื้นที่ โดยจะต้องเป็นพันธุ์ที่ต้านทาน โรคแมลง ซึ่งปัจจุบันเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญที่ ส่งผลต่อผลผลิตอ้อยเป็นอย่างยิ่ง โดยรวมอาจ จะเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน และอื่นๆ ที่ เนื่อง ในส่วนนี้คงจะต้องพึ่งงานวิจัยและ พัฒนาจากภาครัฐเป็นสำคัญ”

วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557

สนทนาเฟื่องเรื่องมะม่วง การปลูกมะม่วงช่วงเดือนมิถุนายน 2557

สนทนาเฟื่องเรื่องมะม่วง การปลูกมะม่วงช่วงเดือนมิถุนายน 2557

สวัสดีขอรับพี่น้องเกษตรกรไทยที่ชอบปลูกผักทุกท่านสำหรับมะม่วง เมื่อเดือนที่แล้วควานหาขายเกรดนางฟ้าเกาหลีกันแทบไม่ทันการ จนโรงอบไม่เพียงพอต่อการอบไปเกาหลี มาเดือนนี้ตลาด เกาหลีเงียบไปเลย เนื่องจากโดนแตงโมมาเลย์เข้ามาขาย มะม่วง เลยเงียบ เพราะไปกินแตงโมที่ถูกกว่ามะม่วง ทำให้เดือน พฤษภาคมปลายๆ นางฟ้าเลยราคาตกไปเลยครับพี่น้อง หลายๆ บริษัทพยามดันไป หรือโยกไปตลาดจีน ก็โดนมะม่วง ที่ไปเกาหลีไม่ได้ไปรอที่ตลาดจีนกันเต็มไปหมด ราคาดิ่งทันที ปลายทางจีน ประกอบกับมะม่วงจีนทางหนานหนิงเริ่มจะออก กับมะม่วงไต้หวันมาประดังกันพอดี ถามว่าเลวร้ายไหม ก็ไม่ขนาดนั้น แต่ไม่ค่อยยอมรับราคานางฟ้าที่ตกลงแค่นั้นเองครับ แต่ก็คงไม่นานนัก ต้นๆ เดือนนี้ก็ดีแล้วครับ กลางเดือนไปก็ แพงคงเดิม

ด้วยว่าตลาดอินโด ตอนนี้ก็มีมะม่วงท้องถิ่นออกมา แล้ว ไม่กินมะม่วงไทยสักพักหนึ่ง ประกอบกับของไทยสินค้าเกษตรเช่นเครื่องพ่นยาสะพายหลัง มะม่วงปลายเดือนก็ผลิตภัณฑ์น้อยลงไปแล้วไม่ต้องเหนื่อยแข่งราคากัน สำหรับอินโดนีเซีย แต่ตลาดจีนยังคงต้องดันกับราคาในไทย เพราะในเดือนกรกฎาคม ของในประเทศเราค่อนข้างจะน้อย

เฉพาะมะม่วงจีนจะออกพอดีการอุบัติซื้อแพงขายถูกก็เดือน นี้ละครับ จะให้ดีก็ขายแค่ภายในประเทศครับช่วงนี้ แพงอยู่แล้ว สำหรับผลมะม่วงของเชียงใหม่ปีนี้ ผลผลิตสวย เกรด นางฟ้าค่อนข้างมากเลยทีเดียว เพราะไม่ค่อยสวยมาหลายปี ติดกัน ปีนี้แก้มือได้แล้ว สวยๆ ทั้งนั้น เพราะเกษตรกรเก่งๆได้ราคาเครื่องตัดหญ้าที่ถูกลง กันทั้งนั้น สมัยนี้แต่ละสวนก็มีลูกค้าปกติจับจองกันทั้งนั้นดีใจแทนครับ มะม่วงก็ดีไปอย่าง ตลาดรอรับซื้อตลอดทั้งปี ทั้งจีน เกาหลี อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และมาเลเซีย เป็นต้น
เนื่องด้วยมะม่วงมหาชนกปีนี้ ตลาดผลสดไม่ค่อยดีนักเนื่องจากไฟฟ้าแพงแต่เครื่องปั่นไฟ ราคาถูกลง จะเป็นด้วยสาเหตุอะไรไม,ทราบแน่ซัดนัก แต่ตลาดอืดมากๆ สำหรับผลสดมหาชนก แต่ตลาดแช่แข็งก็พอไปได้แยะๆ โรงงาน ส่วนมะม่วงอาทูอีทูไปได้ดีครับสำหรับปีนี้ ไม่พอขาย สำหรับเกรดส่งออก
สรุปกำไรของมะม่วงในเดือนมิถุนายนนี้มีอืดๆในช่วงต้นเดือน นิดหน่อย เลยช่วงนี้ไปแล้วตลาดนางฟ้าไปได้ดีละครับ ปีนี้ก็คง ไม่พอขายอยู่ดีมะม่วงเชียงใหม่ปีนี้ ขอให้พี่น้องเกษตรกรดูแล สวนกันดีๆ นะครับ หวั่นเกรงอย่างเดียวที่ไม่ได้ขาย คือพายุมาจาก ไหนไม่รู้ ฟัดซะร่วงหมดด้นแค่นั้นละครับมะม่วงไทย

วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2557

องค์การสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย จัดถกเถียง

องค์การสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย จัดถกเถียง

ไขกลเม็ดเด็ดพราย มะนาวนอกฤดู – เทคนิคการขยายพันธุ์มะนาวด้วยใบ
ต้องบอกว่าในช่วง 1-2 ปีมานี้ทางมะนาวมาแรงแซงหน้าทุกพืชในวงการเกษตรเลยทีเดียว ยิ่งราคามะนาวนอกฤดูของปีนี้พุ่งสูงขึ้นอย่างมากเพราะผลผลิตมะนาวนอกฤดูน้อยกว่าทุกปี ยิ่งทำให้คนระดมปลูกมะนาวเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเครื่องตัดหญ้าราคาถูกลงมาก มะนาวนอกฤดูยังเป็นเสน่ห์ที่ท้าทายความสามารถและความสามารถของคนปลูกมะนาว เพราะแม้จะมีตำราหรือหลักสูตรความสำเร็จให้ได้เดินตามมากมาย แต่ดูเหมือนคู่มือการทำมะนาวนอกฤดูมีหลายเล่มเหลือเกิน และสุดท้ายคนที่สำเร็จกับมะนาวนอกฤดูจริงๆแล้วกลับมีไม่กี่คน การทำมะนาวนอกฤดูยังเป็นความท้าทายที่ทำให้คนปลูกมะนาวยังต้องคัดสรรความลับมาอยู่ตลอด และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้แม้พื้นที่ปลูกมะนาวจะเพิ่มขึ้นมากมายแค่ไหนแต่มะนาวนอกฤดูก็ยังมีปริมาณไม่มากและไม่เพียงพอกับความต้องการ ขณะที่มะนาวในฤดูกลับยิ่งล้นทะลัก ภายหน้าของพืชตัวนี้จะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องที่น่าคิดอย่างยิ่ง
สมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย จึงได้จัดหารือขึ้นในวันที่ 9 ต.ค.2557 ที่ อาคารสารนิเทศ 50 ปี ม.เกษตรศาสตร์ บางเขนเรื่องมะนาวและเครื่องปั่นไฟ โดยมีกำหนดการคร่าวๆ ดังนี้ค่ะ
9.00-12.00 ไขความลับของมะนาวนอกฤดูกับ 3 กูรู
1. อาจารย์วัง สุขประเสริฐ ชาวสวนมะนาวที่ประสบความสำเร็จกับการทำมะนาวนอกฤดูในวงบ่อซีเมนต์กว่า 30 ไร่ จนกลายเป็นวิทยากรที่ได้รับเชิญไปเผยแพร่เทคนิคการทำมะนาวนอกฤดูทั่วประเทศ
2.คุณนิวัติ ปากวิเศษ ประธานสหกรณ์ผู้ปลูกมะนาวบ้านแพ้ว-ดำเนิน จำกัด ชาวสวนที่ประสบความสำเร็จกับการทำสวนมะนาวนอกฤดูกว่า 100 ไร่ ที่รังสิตและบ้านแพ้ว รวมถึง นำนวัตกรรมการแปรรูปมะนาวในช่วงที่มะนาวราคาถูกมาเป็นน้ำมะนาวพร้อมดื่มและน้ำมะนาวเข้มข้น แบรนด์ มีแนว เพื่อเพิ่มมูลค่ามะนาว
3.ดร.วสันต์ ผ่องสมบูรณ์ นักวิชาการเกษตร จากศูนย์วิจัยพืชสวนพิจิตร นักวิชาการที่ศึกษาเล่าเรียนคิดค้นเทคนิคและวิธีการที่จะบังคับมะนาวให้ออกนอกฤดูมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปีและถ่ายทอดสู่เกษตรกรจนเป็นแนวทางในปัจจุบัน
13.30-17.00
- แนวการตลาดของมะนาวจะเป็นอย่างไร เพราะว่า ผู้รับซื้อมะนาวรายใหญ่ของตลาดไท เจ๊เล็ก ที่รับรับซื้อมะนาวมากถึงวันละ 1,000-1,500 กระสอบ และส่งผลผลิตมะนาวกระจายทั่วประเทศรวมทั้งร้านอาหารต่างๆทั่วประเทศ
-การขยายพันธุ์มะนาวด้วยใบ เคล็ดการขยายพันธุ์แบบใหม่โดยใช้เครื่องพ่นยาเพื่อเพิ่มจำนวนกิ่งพันธุ์ปริมาณสูงสุดกว่าทุกวิธี โดย คุณสุรชัย สมันตรัส ศูนย์ศึกษาเล่าเรียนเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ธกส. จ.สตูล
-การขยายพันธุ์มะนาวเชิงการค้า ---การตอน การทาบกิ่ง การเสียบยอด การติดตา การเสียบกิ่งมะนาวบนตอมะขวิด โดยศุภชัย แสงดี เจ้าของสวนเกษตร 12
ครบเครื่องเรื่องมะนาวที่คนปลูกมะนาว คนสนใจการปลูกมะนาว คนที่คิดจะปลูกมะนาว ไม่ควรพลาดค่ะ ค่าสัมมนาคนละ 650 บาท นะคะ เป็นค่าเอกสาร ค่ากาแฟ(เบรก) 2 มื้อและค่าอาหารกลางวัน(บุฟเฟ่)ค่ะ
สนใจสอบถามรายละเอียดหรือจองที่นั่งที่หนึ่ง รักษ์เกษตร ได้นะคะ 089-7835887 ค่ะ เอามาให้ดูไว้ตัดสินใจหาเวลาว่างกันล่วงหน้าแต่เนิ่นๆค่ะ

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557

มัจจุราช หน้าฝน...ที่ต้องรักษาในพืชตระกูลแตง

มัจจุราช หน้าฝน...ที่ต้องรักษาในพืชตระกูลแตง

เพราะคุณอาจเจ๊ง...แค่ชั่วข้ามคืน
การปลูกผักพืชตระกูลแตง ไม่ว่าจะเป็นแคนตาลูป เมล่อน แตงทิเบตหรือแตงอื่นๆจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์การเกษตร  ในช่วงฝนมีความเสี่ยงอันตรายค่อนข้างสูงจาก

สารพัดโรคที่เปรียบเสมือน มัจจุราช ที่มันพร้อมจะมาเยือนเราแบบไม่รู้ตัวค่ะ เพียงชั่วข้ามคืนสิ่งที่คุณออกทุนมาทั้งหมดอาจสูญเปล่าทั้งที่คุณมองเห็นเส้นชัยอยู่ข้างหน้า

ก็ตาม แปลงแคนตาลูปของคุณกิติ ที่แก่งคอย ที่ใช้เครื่องพ่นยา หนึ่งในสมาชิกของโครงการเราก็เช่นกัน อีก 14 วันกำลังจะได้เก็บลูก แต่ฝนที่กระหน่ำเพียงชั่วข้ามคืน

ตื่นขึ้นเช้ามาสภาพอย่างที่เห็น โรคระบาดขึ้นเกือบทุกใบบนต้นค่ะ นี่คือมหันตภัยที่คนปลูกสร้างแคนตาลูปมีโอกาสเจอค่ะ ความรอบรู้ ประสบการณ์และพลังใจที่แข็ง

แกร่งเท่านั้นที่จะทำให้เราก้าวผ่านมันไปได้ค่ะ เราอาจจะใหม่ในวงการแคนตาลูป ไม่ได้ปลูกมา 10 ปี 20 ปี แต่เราไม่ใหม่ในวงการเคมีเกษตรค่ะ เพราะฉะนั้นอ้อน

วอนให้เชื่อมั่นว่าเราจะอยู่เคียงข้างคุณและพาคุณเดินไปถึงเส้นชัยให้ได้ค่ะ
วันนี้ สิ่งที่น่ากลัวเมื่อ 2 วันที่แล้ว มันไม่น่ากลัวแล้ว ด้วยองค์ความรู้และประสบการณ์ที่เรามี แปลงแคนตาลูปแปลงนี้เราแก้ปมปัญหาได้แล้วและเราก้าวข้ามความกลัว

ตรงนั้นมาได้แล้ว โรคหยุดแล้วแต่ยังทิ้งร่องรอยให้เห็น แต่ไม่มีผลต่อการเจริญเติบโตต่อไปได้ค่ะ ....สปินเนอร์...คือ สุดยอดยาที่เราพัฒนาขึ้นเพื่อต่อสู้กับโรคจากเชื้อ

ราและแบคทีเรียที่ตอบโจทย์ที่สุด และเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เราปลื้มใจ และมันจะพาสมาชิกของเราทุกคนผ่านพ้นวิกฤติค่ะ....ขอแค่ อย่ากลัว และ เชื่อมั่น....
สมาชิกทุกคนมีปัญหาอะไร มีอะไรผิดปกติรีบแจ้งนะคะ ความปุบปับในการแก้ปัญหาคือปัจจัยของความสำเร็จค่ะ

"ลงทุนเหตุด้วยปลดหนี้ ไม่ใช่หรือลงทุน...เพิ่มหนี้"

"ลงทุนเหตุด้วยปลดหนี้ ไม่ใช่หรือลงทุน...เพิ่มหนี้"

หลายคนอยากเอาคืนครับ เพราะเจ้ามือเอาไปละ แต่ก็ต้องหาทุน....
ใช่ครับ ชีวิตกิจธุระไม่ใช่การเดิมพัน แต่หลายคนไม่มีความรู้รากฐาน ในบัญชีต้นทุน และการทำธุรกิจ เลยกลายเป็นชีวิตแข่งกับเจ้ามือ.
"การเดิมพัน ไม่เคยทำให้คุณชนะเจ้ามือ"
ทุกวันนี้คุณไม่รู้หรอกว่าเจ้ามืออย่าง ธนาคารมั่งคั่ง ธกส.ร่ำรวย กลุ่มสหกรณ์ร้วยรวย และผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบ รวยๆ.
"กักดักที่วางไว้อยู่รอคุณอยู่ครับ"
ถ้าคุณไม่เข้าใจสิ่งต่างๆเหล่านี้ ความจน ที่เค้ามอบให้ และคุณกำลังเดินอยู่กำลังมาครับ.
โอกาส,ผลตอบแทนการลงทุน,ค่าแรง,จุดคุ้มทุน,เวลากับเงิน
ฉันมีหนี้ ฉันต้องการทำงาน ทำธุรกิจ ทำเกษตร ขายของ ขายเครื่องตัดหญ้า ขายเครื่องปั่นไฟ และอื่นๆจนไม่รู้จบ เพื่อปลดหนี้ ฉันรู้อยู่ว่ามันก็เสี่ยงอันตราย เพราะขึ้นกับฟ้าฝน และสภาวะการตลาด ฉันลงมือทำแล้วด้วย แต่ทำไมหนี้ฉันไม่หายแต่หนี้กลับเพิ่มขึ้นมาอีก?
ถ้าคุณไม่รู้อย่างผมรู้ หนี้ไม่หายครับ และยังจะเพิ่มขึ้น.
ผมรู้ว่าคุณไม่ชอบเล่นการพนัน ผมก็ไม่ชอบ แต่ถ้าคุณใช้สอยเงิน อย่างนี้, อย่างที่เป็นอยู่อย่างเคย มองรายได้กลับมาไม่สมเหตุสมผล และคิดไปเองอย่างนี้ ยากมากๆครับ.

วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557

แม่แรงพร้อมทั้งแม่แรงแบบไฮดรอลิกพร้อมทั้งความสำคัญ

แม่แรงพร้อมทั้งแม่แรงแบบไฮดรอลิกพร้อมทั้งความสำคัญ


ในประจุบันชีวิตความเป็นอยู่จำเป็นต้องมีเครื่องเอื้ออำนวยความสะดวก และสนับสนุนในการทำงาน เพื่อให้

เกิดความสบาย สบาย และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในการดำรงชีวิตและการทำงานนั้น สิ่งที่เราสัมผัสอยู่

เป็นประจำ ๆ ก็คือการใช้ยานพาหะกันอยู่ประจำทุกวันจำเป็นต้องมีการดูแลและบำรุงรักษา เช่นซ่อมแซมจุด

ที่ชำรุดเสียหาย การบำรุงรักษาพื้นที่ที่อยู่สูงจากพื้น ต้องมีวัสดุอุปกรณ์ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานขึ้นไปทำงาน ถ้า

อุปกรณ์นั้นไม่มีประสิทธิภาพอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี

สิ่งอำนวยความสะดวกที่จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเช่นแม่แรง ทางคณะผู้วิจัยจึงคิดสร้าง“

แท่นยกล้อเอนกประสงค์” ขึ้นเพื่อที่จะอำนวยความสะดวกให้การปฏิบัติงานบนที่สูง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สูงสุด



แม่แรง

กำลังไฟฟ้าที่ถ่ายทอดพ้นตัวกลางที่เป็นอากาศหรือน้ำมันนั้น สามารถส่งผลออกมาเป็นแรงทางกลได้

อย่างมหาศาล แท่นแม่แรงไฮดรอลิกส์รถยกจะแบ่งออกได้เป็น2 แบบ คือ แบบไฮดรอลิกล้วน และแบบกึ่ง

ไฮดรอลิก แท่นแม่แรงแบบไฮดรอลิกล้วนจะอาศัยหลักความสัตย์จริงในทางพลศาสตร์ของของเหลวภายใต้

แรงกดดันซึ่งในกรณีของเหลว คือ น้ำมันส่วนแท่นแม่แรงแบบกึ่งไฮดรอลิกนั้นจะใช้น้ำมันเป็นตัวหน้าที่กันรั่ว

ให้กับอากาศที่มีความดันสูงขณะแม่แรงทำงาน แท่นแม่แรงตะเข้ไฮดรอลิกทั้งสองแบบ จะมีก้านแม่

แรงกระปุกเป็นลูกสูบยาวซึ่งเลื่อนอยู่ภายในกระบอกสูบที่มีความยาวเท่ากันและถูกฝังไว้ในพื้นปลายล่างของ

ลูกสูบ ซึ่งมีตัวรองลื่นสวมอยู่ในลักษณะยันอยู่กับผนังของกระบอกสูบ เพื่อป้องกันมิให้ก้านลูกสูบแอ่นไปมา

เมื่อมีการรับภาชนะที่มิได้ลงมาตามแนวแกนกลางของก้านลูกสูบที่ส่วนบนของกระบอกสูบจะมีตัวกันรั่วซึ่ง

ปฏิบัติหน้าที่ช่วยปาดน้ำามันที่จะติดไปบนก้านลูกสูบให้เหลือเป็นเพียงฟิล์มบางๆ ในขณะที่ก้านลูกสูบเลื่อน

ขึ้นมา อีกทั้งยังป้องกันน้ำและความสกปรกด้วย



แท่นแม่แรงแบบไฮดรอลิกล้วน

หมู่แท่นแม่แรงยกรถแบบไฮดรอลิกล้วนจะให้ผลดีในการควบคุมที่ละเอียดแม่นยำ แต่มีความจำเป็นที่จะต้อง

ใช้ถังเก็บน้ำมันแยกต่างหากและต้องใช้วาล์วควบคุม 2 ตัววาล์วตัวแรกซึ่งควบคุมปล่อยที่มีความดันสูงเข้าไป

ในถังน้ำมันที่แยกต่างหากนั้น จะเป็นวาล์วชนิด 2 ทาง ลมที่มีความดันสูงจะเข้าไปกดอยู่เหนือน้ำมันภายในถัง

ดังกล่าว ต่อจากนั้นเมื่อทำการเปิดวาล์วน้ำมัน น้ำมันจะถูกลมอุดให้ไหลเข้าไปภายในกระบอกสูบ ผ่านตัวรอง

ลื่นลงไปดันยกลูกสูบขึ้นมา ในการลดลูกสูบออกจากถังน้ำมันก่อนโดยการเปิดวาล์วลมปล่อยให้ระบายออกสู่

บรรยากาศภายนอก จากนั้นจึงควบคุมลดให้ลูกสูบต่ำลงมาโดยการเปิดวาล์วน้ำามันให้น้ำมันจากลูกสูบและ

กระบอกสูบไหลกลับเข้าไปภายในถังน้ำมันดังเดิม

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557

เคยเจอปัญหาย้อนยอกเกี่ยวกับลมๆ ยางๆ หรือเปล่า


เคยเจออุปสรรคยากเกี่ยวกับลมๆ ยางๆ หรือเปล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทุกสิ่งสรรพไม่เป็นใจ อาจจะเพราะล้อถูกปล่อยลมจนเกลี้ยง หรือมีหลักฐานตำอยู่คาล้อ แถมยางอะไหล่เจ้ากรรมซึ่งร้อยวันพันปีไม่

เคยตรวจลมยางเลย ผลที่ได้คือ...แบนแต๊ดแต๋ติดดินเหมือนกับยางติดล้อเช่นกันหรือถ้าจะให้วิบากเข้าไปอีกก็กากบาทสำหรับไขน็อตล้อก็ดันหายไม่รู้ว่าไปอยู่ไหน แถมยังมาแบนอยู่ในที่เปลี่ยวอีกเนื่องจากไม่มีปั๊มลม

เอาละ....ฟังดูอาจเหมือนสุคติแกล้งปั้มลมก็ไม่มี จนหลายคนคิดว่ามันไม่น่าเกิดขึ้นในชีวิต...อาจจะจริง แต่อย่าลืมว่าหนังและละครบ้างเรื่องที่เราว่าน้ำเน่า หลายเรื่องก็ Base on True Story

เหมือนกัน ดังนั้น ทางที่ดีอย่าประมาทกับเรื่องอย่างนี้ดีกว่า

ที่เกริ่นมาซะยาวก็เพราะ ผมเคยเจอกับปัญหาในลักษณะนี้ (แต่ไม่ถึงกับวิบากสุดๆตามตัวอย่าง) เรื่องของเรื่องคือยางเจ้ากรรมดัน
แบนในขณะจอดรถไปทำธุรกรรมในห้าง เพราะมีน็อตปักคาอยู่ตรงร่องดอกยางพอดีซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าปักมานานแล้วหรือยัง แต่ที่แน่ๆ ยางมันดันมาแบนเอาในวันนี้ รีบก็รีบ....กากบาทและแม่แรงคู่ใจเอา

ออกมาแล้ว แต่ปัญหาคือ ยางอะไหล่ดันไม่มีลมเหลือเลย เพราะผมไม่เคยตรวจเช็ค ราคาปั๊มลมก็ไม่รู้ แถมไม่ได้ซื้ออีก (และเชื่อว่านักขับส่วนใหญ่ก็แทบไม่จะไม่เคยเช็คตรงนี้เลย)....แล้วตอนนี้จะทำอย่าง

ไรกันดีล่ะ ?
 อีกเคสคือ มีอยู่วันหนึ่งรถคันเก่าแก่คู่บุญของผมอยู่ดีๆ กลับยางแบนเอาเฉยๆ สืบทราบใจความได้ว่า อาจเป็นเพราะช่วงนั้นได้รถคันใหม่
มาใช้ ก็เลยเห่อและจอดคันเก่าไว้นานร่วมสัปดาห์ แถมก่อนหน้านั้นในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาก็ไม่เคยเช็คและเติมลมยางเลย มันก็คงจะงอนผมและผลมันก็เลยเป็นเช่นนี้ ส่วนอีกครั้งก็เจออาการลมซึมออกจน

ยางเกือบจะแบน ถ้าฝืนขับออกไปนี่ มีหวังยางปลิ้นออกจากกระทะล้อ


 ทั้งหมดมีจุดร่วมกันคือ ยางแบนทั้งอันที่ ติดอยู่กับรถและยางอะไหล่ หรือลมยางอ่อนจน ขับไปไม่ได้เพราะฉะนั้นตัดปัญหาเรื่องการขึ้นแม่แรงเปลี่ยนล้อเพื่อขับออกไปจัดการปะยางออกไปได้เลย และนี่ก็

เลยที่มาของ “ตัวช่วย” ที่จะอำนวยความสะดวก
ในการพาคุณออกจากปัญหาตรงนี้ (คือปั๊มลมนั้นเอง ปั๊มลม ราคาก็ไม่แพงมากน่าจะซื้อติดรถไว้นะจ๊ะ)

   ปั๊มลมแบบใช้เท้ากระทืบที่มีขายปั๊มลมตามแผนกกีฬานี่แหละช่วยได้และเป็นอัศวินม้าขาวในการพาผมออกจากสถานการณ์คับขันตามที่เล่ามาแล้ว จากนั้นมันก็เลยกลายเป็นวัตถุคู่ใจที่อยู่ติดท้ายรถผม

มาตลอดไม่ว่าจะไปไหน วิธีใช้ก็ไม่ยุ่งยากแค่เสียบหัวเติมเข้ากับจุ๊บลมของล้อ แล้วจากนั้นก็อัดๆๆๆๆ ลมเข้าไป จนได้แรงดันลมยางที่เหมาะสม แต่ความจริงผมแนะนำให้เติมเผื่อไปอีกสัก 5-6 ปอนด์

จากระดับปกติเพราะเราไม่มีทางรู้ว่า รอยที่รั่วไหลมันมีลมซึมออกมามากและเร็วขนาดไหน โดยเฉพาะตอนรถแล่นเมื่อยางเกิดการขยับตัวและบิดไปมา จากนั้นก็รีบพารถไปหาร้านปะยางที่ใกล้ที่สุด ซึ่ง

ในเคสของผมทั้ง 2 หลังจากเติมลมแล้ว ไปถึงออกจากบ้านไปร้านปะยางที่ใกล้ที่สุดระยะทางประมาณ 3-4 กิโลเมตร โดยที่ยางและล้อยังอยู่ในสถานภาพปกติลมไม่ซึมออกมามาก
   อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังคือ ถ้าพบว่ายางรถหมดลมชนิดแบนแต๊ดแต๋ติดดิน หลังจากได้ปั๊มลมมาแล้ว อย่าเพิ่งใจร้อนรีบด่วนจัดการเสียบเข้ากับจุ๊บล้อแล้ว
ปั๊มลมเข้าไปทันที ควรนำรถขึ้นแม่แรงให้ล้อยกลอยขึ้นจากพื้นสักนิด เพื่อให้ลมสามารถไหลเข้าสู่ล้อได้อย่างสะดวก โดยที่กระทะล้อไม่กดทับยางเป็นการขัดขวางการไหลเข้า เพราะไม่เช่นนั้นแล้วลูกสูบ

ในกระบอกของปั๊มลมพังอย่างแน่นอน...อันนี้ผมเคยมาแล้ว
นอกจากนั้น สิ่งที่ควรระวังอื่นๆ เช่น ท่าทีเมื่อยขาซึ่งเป็นเพราะการปั๊มลมเข้าสู่ยาง ซึ่งการปั๊มลมจากไม่มีแรงดันอยู่เลยให้กลับมามีระดับแรงดันประมาณ30 ปอนด์ ก็ทำเอาขาขวาล้าได้

เหมือนกัน รวมถึงในขณะที่กำลังเหยียบปั๊มลม ควรหมั่นเงยหน้ามองฟ้า หรือทิวทัศน์ตรงอื่นบ้าง เพราะถ้ามัวแต่มองเท้าตัวเอง มีสิทธิ์หน้ามืดได้ ทางที่ดีควรพักบ้าง เพราะนอกจากคนจะได้หยุดพักแล้ว ยัง

ให้ปั๊มได้พักด้วย เพราะการสูบลมในลักษณะนี้ทำให้ลูกสูบของปั๊มทำงานหนัก และมีความร้อนสะสมเกิดขึ้น


สำหรับการเลือกปั๊มลมสำหรับนำมาติดรถไม่แนะนำปั๊มลมมือสองนะ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับงบประมาณในกระเป๋า และความแกร่งของขาขวาที่จะต้องใช้เหยียบปั๊ม ถ้าเป็นคุณผู้หญิงก็แนะนำให้หาปั๊มลมไฟฟ้า

แบบเสียบเข้ากับช่องจุดบุหรี่ในรถจะดีกว่า เพราะมีการทำงานที่เร็วและไม่ต้องเมื่อยขา แต่ถ้างบฯ น้อย แนะนำเป็นปั๊มแบบลูกสูบคู่และมีขนาดกระบอกใหญ่หน่อย น่าจะมีความทนทานและไม่ต้องเหยียบ

กันเหนื่อยเหมือนกับลูกสูบเดี่ยว อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่า ปั๊มลมมีประโยชน์ในการช่วยพาตัวคุณและรถออกจากสถานการณ์คับขันเพื่อไปถึงสถานที่สำหรับแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยที่ไม่ต้องเหนื่อยมาก และ

เหมือนกับอุปกรณ์สำหรับการปฐมพยาบาล ดังนั้นเมื่ออัดลมเข้าไปจนรถแล่นได้แล้ว ก็ควรพาไปตรวจเช็คสภาพล้อและยางให้เรียบร้อยก่อนเดินทางต่อ

น่าแปลกที่มีบางคนเห็นว่าจะหนักเกินไปเพราะเครื่องปั๊มลมและมีผลต่อความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งที่เมื่อคิดดูแล้ว อัตราการกินน้ำมันไม่น่าจะเพิ่มขึ้นมาเท่าไรเลยไม่ว่าจะมีหรือไม่มีปั๊มลม ซึ่งผม

กลับคิดว่า เป็นเรื่องที่คุ้มค่านะที่คุณจะยอมให้รถแบกน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกสักครึ่งกิโล แต่ได้อุปกรณ์ที่มีประโยชน์และจำเป็นสำหรับเดินทาง...ถ้าวันไหนที่เจอกับเหตุการณ์ที่ผมยกตัวอย่างข้างต้น ตอนนั้น

แหละที่จะคิดถึงประโยชน์ของเจ้าปั๊มลมขึ้นมาทันที

ประโยชน์
• ใช้งานง่าย
• รวดเร็วกว่าการเปลี่ยนยางอะไหล่
• เป็นการปฐมพยาบาลเพื่อพารถออกมาและไปยังร้านซ่อมยาง
• ไม่ต้องเหนื่อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับการเปลี่ยนยางอะไหล่
ข้อเสีย
• เมื่อยขา
• รถต้องแบกน้ำหนักเพิ่ม
• ใช้ได้เฉพาะยางแบนเนื่องจากถูกอะไรตำหรือลมซึมออกมา
• แต่ถ้าปัญหามาจาก อย่างอื่นๆ เช่น ยางฉีกขาด ก็ไม่สามารถทำได้

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เตือนเกษตรกรที่จะจำหน่ายสินค้าเกษตร


เตือนเกษตรกรที่จะจำหน่ายสินค้าเกษตรเช่นเครื่องพ่นสี
ผัก ผลไม้ ให้กับแผงค้าในตลาดนะคะ
ระวังโดนคอรัปชั่นเงินค่าสินค้าโดยที่คุณไม่ได้คืนค่ะ
อันนี้เป็นบทเรียนที่อยากเตือนเลยค่ะเพราะเกษตรกรที่จะนำ เครื่องพ่นสีแบบพกพา ผัก ผลไม้มาขายให้กับแม่ค้าในตลาดนะคะ หากมีการติดต่อซื้อผัก ผลไม้ จากแผงค้าให้คุณเข้ามาดูที่แผงก่อนนะคะว่า

แผงค้านั้นๆ มีอยู่จริงหรือไม่ และอยู่ส่วนไหนของท้องตลาดนะคะ อย่าจัดจำหน่ายสินค้าโดยที่คุณยังไม่ได้มาดูแผงว่ามีตัวตนจริงรึเปล่า เนื่องจากถ้าเกิดอะไรขึ้นโดยเฉพาะแผงไม่จ่ายเงินคุณจะสูญเงิน

เปล่าทันที เพราะอะไรนะเหรอค่ะ เพราะบางครั้งคนที่มาซื้อเราไม่ใช่แผงโดยตรงค่ะ แต่เป็นพ่อค้าคนกลางค่ะ ซึ่งเราจะไม่สามารถทำอะไรได้เลยถ้าเขาสูญหายไป
แต่ในกรณีที่ขายสินค้าอื่นๆหรือเครื่องพ่นยา แผงค้าในตลาดเป็นคนซื้อสินค้าเอง แล้วไม่จ่ายเงินสวน อันนี้คุณได้ตังคืนแน่ค่ะ เพราะทางตลาดจะมีมาตรการในการจัดการกับแผงค้านะคะ ดังนั้นในกรณีที่

สวนขายสินค้าแล้วไม่ได้เงินจากแผงค้า ไม่ต้องทวงกับแผงค้านะคะ บอกกล่าวที่เจ้าหน้าที่ตลาดหรือสำนักงานของตลาดเลยค่ะ ทางตลาดเขาจะเรียกแผงค้ามาคุยพร้อมกับให้ตกลงกันระหว่างแผงค้ากับ

สวนค่ะ ยังไงแผงค้าก็ต้องจ่ายตังค่ะ ถ้าแผงค้าไม่จ่ายตังทางตลาดจะยกเลิกแผงค้าของเจ้าของแผงทันทีค่ะ เพราะทางตลาดถือว่าแผงค้าทำให้ตลาดเสียเกียรติศักดิ์ค่ะ ซึ่งกรณีแบบนี้จะไม่มีแผงค้าไหนยอม

ถูกยกเลิกแผงค่ะ เพราะนั่นคืออาชีพเขาค่ะ และสวนจะได้เงินค่ะ แต่ที่ผ่านมาพอแม่ค้าไม่จ่ายตังสวนไม่รู้จะทำยังไง เลยยอมสูญเงินกันค่ะ
ข่าวสารนี้หนึ่งเองก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าราคาปั้มน้ำ ทางตลาดเขามีมาตรการดูแลชาวสวนและดูแลแผงค้าไม่ให้เอาเปรียบชาวสวนเหมือนกัน หลังจากที่มีสมาชิกมีปัญหาขายผักแล้วโดนแม่ค้ายักยอกเงิน ไม่

ยอมจ่ายตัง จึงขอให้หนึ่งช่วยประสานตลาดให้หน่อย เลยได้ข้อมูลดีๆ จากตลาดมาฝากสมาชิกกันค่ะ แต่สมาชิกคนนั้นก็ยังไม่ได้เงินคืนนะคะ เพราะเขาขายผักผ่านคนกลางที่เอามาส่งแผงอีกที และไม่ได้

มาดูว่าแผงค้านั้นมีจริงหรือไม่ เมื่อคนกลางปิดการติดต่อทุกอย่างเราไม่รู้จะไปตามหาเขาที่ไหนเลยค่ะ แต่อย่างที่บอกถ้าเป็นแผงค้า มีตัวตน เราตามได้ค่ะ ตอนนี้เลยได้แต่ภาวนาให้คนกลางเปิดการติดต่อ

สื่อสารและสามารถติดต่อเขาได้ค่ะ เงินตังแสนกว่าอ่ะ....เสียดายค่ะ เครื่องสูบน้ำราคาถูก